Bangkok,
07
มิถุนายน
2021
|
07:50
Europe/Amsterdam

ผลสำรวจล่าสุดจาก Booking.com เผยผู้เดินทางชาวไทย 94% คิดว่า การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนคือเรื่อง ‘จำเป็น’

รายงานด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี 2564 จาก Booking.com ชี้ให้เห็นว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาด สามารถส่งเสริมความตั้งใจในการเดินทางอย่างยั่งยืน และนำสู่การการลงมือทำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงจริงในหมู่คนไทยได้อย่างไร

  • 94% ของผู้เดินทางชาวไทยคิดว่าการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนนั้นสำคัญอย่างมาก โดย 78% ระบุว่า การแพร่ระบาดใหญ่ครั้งนี้ส่งผลให้ต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในอนาคต
  • ผู้เดินทางมากกว่าครึ่ง (66%) เชื่อว่าในปี 2564 ก็จะยังไม่มีตัวเลือกที่มากพอสำหรับการเดินทางอย่างยั่งยืน และ 66% ยอมรับว่า รู้สึกหงุดหงิดหากที่พักที่เลือกเข้าพักไม่เอื้อให้พวกเขาสร้างความยั่งยืน เช่น ไม่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ หรือสิ่งของอำนวยความสะดวกที่สามารถรีไซเคิลได้
  • ในขณะที่ผู้ให้บริการที่พักจำนวน 3 ใน 4 รายระบุว่า พวกเขาได้นำบางส่วนของแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนมาปรับใช้กับที่พักแล้ว โดยมีที่พักจำนวน 1 ใน 3 เท่านั้นที่ทำการสื่อสารเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของตน ไปยังลูกค้าที่มีแนวโน้มจะมาเป็นผู้เข้าพัก
  • เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้เดินทางจะสามารถเข้าถึงตัวเลือกการเข้าพักแบบยั่งยืนได้สะดวกยิ่งขึ้น ตอนนี้บนแพลตฟอร์ม Booking.com ได้แสดงใบรับรองมาตรฐานด้านความยั่งยืนจากองค์กรเพื่อความยั่งยืนในระดับสากล รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางด้านความยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพกว่า 30 รายการ ซึ่งที่พักหลายแสนแห่งทั่วโลกได้นำมาปรับใช้

 

ผลการสำรวจข้อมูลล่าสุดจาก Booking.com ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากความคิดเห็นของผู้เดินทางกว่า 29,000 คนใน 30 ประเทศ เผยให้เห็นว่าการแพร่ระบาดได้กระตุ้นให้ผู้เดินทางมุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นการเดินทางท่องเที่ยวในวิถียั่งยืน ซึ่ง 87% ของผู้เดินทางชาวไทยเชื่อว่าผู้คนต้องลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้เพื่อรักษาโลกใบนี้ไว้ให้คนรุ่นต่อไป ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง รายงานด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี 2564 ของ Booking.com เผยว่าผู้เดินทางมุ่งมั่นที่จะเดินทางอย่างยั่งยืนด้วยความใส่ใจมากกว่าที่เคย โดย 78% ของผู้เดินทางชาวไทยกล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเปลี่ยนให้พวกเขาต้องการเดินทางแบบยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต และ 66% ยอมรับว่าการแพร่ระบาดได้เปลี่ยนทัศนคติให้พวกเขาลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิตประจำวัน อาทิ การรีไซเคิล (50%) และการลดขยะอาหาร (28%) ซึ่งพวกเขาให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ

จากผลการสำรวจในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามแนวทางเพื่อความยั่งยืนในแต่ละวันของผู้เดินทาง สอดคล้องกับความตั้งใจที่จะออกท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในทริปต่อ ๆ ไป โดย 94% ของผู้เดินทางชาวไทยต้องการลดปริมาณขยะทั่วไป ส่วน 91% ตั้งใจลดการใช้พลังงาน (เช่น ปิดแอร์ และปิดไฟในห้องพักในเวลาที่ออกไปข้างนอก) และ 85% ต้องการใช้ตัวเลือกในการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การเดิน การปั่นจักรยาน หรือใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ แทนที่จะใช้แท็กซี่หรือรถเช่า นอกจากนั้นผู้เดินทางยังเคารพและให้ความสำคัญต่อชุมชนท้องถิ่นมาเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน เพราะในระหว่างการเดินทาง 85% ของผู้เดินทางชาวไทย ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สะท้อนวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นนั้นๆ อย่างแท้จริง ส่วน 91% เชื่อว่าการเร่งสร้างความเข้าใจด้านวัฒนธรรม และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในขณะที่ 85% ต้องการมั่นใจว่าผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะถูกกระจายไปสู่คนทุกระดับในสังคม นอกจากนี้ 87% ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น ไปถึงขั้นเลี่ยงจุดหมายและสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม เพื่อให้มั่นใจว่าตนจะไม่มีส่วนทำให้เกิดปัญหานักท่องเที่ยวล้น และเพื่อช่วยกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น ด้วยการช่วยในส่วนที่ตนเองทำได้อย่างการเดินทางไปยังจุดหมายและชุมชนที่มีผู้คนไปเยือนน้อย

ทำลายอุปสรรคที่มีต่อการเดินทางอย่างยั่งยืน

เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่ผลสำรวจเผยว่านี่ไม่ได้เป็นเพียงความตั้งใจดี ๆ ของผู้เดินทางเท่านั้น เพราะมีความมุ่งมั่นมากมายที่กำลังบังเกิดผล โดยระหว่างการไปทริปท่องเที่ยวในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาของผู้เดินทาง ผลสำรวจข้อมูล พบว่า 47% ของผู้เดินทางชาวไทยต่างไม่ลืมปิดเครื่องปรับอากาศในที่พักตอนไม่ได้อยู่ในห้อง ส่วน 48% พกขวดน้ำที่ใช้ซ้ำได้ไปเอง แทนที่จะซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดระหว่างออกทริป และ 51% ได้ทำกิจกรรมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น และอันที่จริงแล้วผู้เดินทางชาวไทยมากกว่าครึ่ง (66%) ยอมรับว่า รู้สึกหงุดหงิดหากที่พักที่เลือกเข้าพักไม่เอื้อให้พวกเขาสร้างความยั่งยืน เช่น ไม่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ หรือสิ่งของอำนวยความสะดวกที่สามารถรีไซเคิลได้

ในขณะเดียวกัน 98% ของผู้เดินทางชาวไทย กล่าวว่า ต้องการเข้าพักในที่พักรักษ์โลกที่ยึดหลักความยั่งยืนในปีที่จะถึงนี้ และอันที่จริงแล้วจาก 14% ของผู้เดินทางชาวไทยที่กล่าวว่าเมื่อปีก่อนไม่ได้เข้าพักในที่พักรักษ์โลก มีผู้เดินทาง 24% ในกลุ่มดังกล่าวระบุว่า พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีที่พักเช่นนี้อยู่ และ 47% ระบุว่า พวกเขาไม่พบตัวเลือกแบบนี้เลยในจุดหมายที่ไปมา และ 39% กล่าวว่าไม่รู้วิธีหาที่พักรักษ์โลกเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น 66% ของผู้เดินทางชาวไทยเชื่อว่าในปี 2564 ก็จะยังไม่มีตัวเลือกที่มากพอสำหรับการเดินทางอย่างยั่งยืน

เมื่อพูดถึงความตระหนักและความตั้งใจ ดูเหมือนว่าผู้เดินทางและที่พักจะเห็นด้วยไปในแนวทางเดียวกัน โดยการสำรวจข้อมูลครั้งใหม่ เผยว่าจากการสอบถามที่พักคู่ค้าของ Booking.com มีที่พักคู่ค้าถึง 82%** ที่เชื่อว่าความยั่งยืนในแวดวงการให้บริการนั้นมีความสำคัญ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับ 94% ของผู้เดินทางชาวไทยที่เชื่อเช่นกันว่าการเดินทางอย่างยั่งยืนเป็นประเด็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่พักคู่ค้าจาก 3 ใน 4** ได้เริ่มนำขั้นตอนต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้เพื่อความยั่งยืนในที่พักแล้ว แต่มีเพียง 1 ใน 3 (31%**) เท่านั้นที่ทำการสื่อสารเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของตน ไปยังลูกค้าที่มีแนวโน้มจะมาเป็นผู้เข้าพัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ให้บริการที่พักจะสื่อสารตอนที่ผู้เดินทางกำลังเช็คอินภายในที่พัก (59%**) ข้อมูลชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในเส้นทางสู่ความยั่งยืนดังกล่าว ว่าเหล่าผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวควรทำอย่างไร เพื่อให้ผู้เดินทางสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านความยั่งยืนได้ง่ายดาย ตั้งแต่ช่วงต้น ๆ ของกระบวนการจองที่พัก

ปิดช่องโหว่ไปทีละขั้น เพื่อก้าวสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน

Booking.com มีพันธกิจที่จะช่วยให้ทุกคนออกไปสำรวจโลกกว้างได้ง่ายดายยิ่งขึ้น และในฐานะผู้นำในธุรกิจการท่องเที่ยว Booking.com กำลังก้าวสู่ช่วงเวลาสำคัญในการผลักดันให้การเดินทางอย่างยั่งยืนของทั้งนักเดินทางและที่พักคู่ค้าเป็นเรื่องที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น นั่นคือเหตุผลที่ Booking.com เปิดตัวโปรแกรมด้านการเดินทางอย่างยั่งยืน เพื่อให้ที่พักคู่ค้าสามารถดำเนินการ เพื่อสนับสนุนให้ผู้เดินทางได้ก้าวสู่อีกขั้นของการเดินทางอย่างยั่งยืน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่จุดใดในเส้นทางเหล่านั้นก็ตาม โปรแกรมดังกล่าวประกอบไปด้วย การเผยแพร่คำแนะนำ ข้อมูลเชิงลึก และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดแก่ที่พักคู่ค้า ผ่านการรูปแบบการถ่ายทอดความรู้ในหลายช่องทาง ได้แก่ คู่มือแนะนำแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน และคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายผ่านศูนย์ข้อมูล Partner Hub ของเรา

ปัจจุบันแพลตฟอร์ม Booking.com ได้มีการเริ่มนำเสนอประกาศนียบัตรที่รับรองมาตรฐานด้านความยั่งยืนกว่า 30 รายการ ที่ถูกรับรองโดยองค์กรเพื่อความยั่งยืนในระดับสากลทั้ง Global Sustainable Tourism Council (GSTC), Green Tourism และ EU Ecolabel รวมทั้งโครงการเพื่อความยั่งยืนของเครือโรงแรมต่างๆ โดย Booking.com ดึงข้อมูลนี้มาโดยตรงจากองค์กรที่ให้การรับรอง และแสดงข้อมูลดังกล่าวบนหน้าข้อมูลที่พักของคู่ค้าที่ได้รับการรับรองเหล่านั้น นอกเหนือไปจากการแสดงใบรับรอง Booking.com ยังกระตุ้นให้ที่พักคู่ค้าอัปเดตข้อมูลด้านความยั่งยืนให้แสดงบนหน้าข้อมูลที่พัก โดยข้อมูลประกอบไปด้วย 32 แนวทางที่มีประสิทธิภาพใน 5 หัวข้อหลัก ได้แก่ ขยะ, พลังงานกับก๊าซเรือนกระจก, น้ำ, การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น และการอนุรักษ์ธรรมชาติ จากการเปิดตัวไปทั่วโลกครั้งนี้ ที่พักหลายแสนแห่งทั่วโลกได้เริ่มแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน ที่พวกเขาได้นำปรับใช้ในที่พัก กับทาง Booking.com แล้ว และข้อมูลดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายโดยเพียงแค่คลิกที่แบนเนอร์ “แนวทางเพื่อความยั่งยืน” ในหน้าข้อมูลที่พักแต่ละแห่ง

เราได้ทำการสำรวจข้อมูลด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 6 ปี ข้อมูลที่เราได้รู้ถือเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราที่ Booking.com เพราะเราได้เห็นว่าการตระหนักถึงความสำคัญของการเดินทางอย่างยั่งยืนนั้นมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากผู้เดินทางและจากที่พักคู่ค้าของเราด้วยเช่นกัน” มาริแอน กิบเบิลส์ (Marianne Gybels) ผู้อำนวยการสายงานความยั่งยืน ของ Booking.com กล่าวเสริมว่า “ทุกฝ่ายต่างมีความตั้งใจที่ดี แต่เรายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากเพื่อทำให้การเดินทางอย่างยั่งยืนกลายเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน ยิ่งเราช่วยให้ที่พักคู่ค้าเข้าใจและปรับใช้แนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนได้มากเท่าใด เราก็ยิ่งมีโอกาสในการทดลองเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้แก่ผู้บริโภคได้มากขึ้นเท่านั้น และในที่สุดเราก็จะค้นพบวิธีที่เหมาะสมในการเผยแพร่ข้อมูลด้านความยั่งยืนให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของผู้เดินทางได้อย่างชัดเจนและโปร่งใส การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ อาทิ การเลิกใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง หรือเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ประหยัดไฟ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ถ้าต่างคนต่างทำอาจจะไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้ แต่ถ้าผู้เดินทาง และเจ้าของที่พักหลายล้านรายจากทั่วโลกหันมาร่วมมือร่วมใจกัน ก้าวเล็กๆ เหล่านี้อาจรวมเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ใหญ่ยิ่งได้ในท้ายที่สุด

หากต้องการดาวน์โหลดรายงานด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี 2564 ที่จัดทำโดย Booking.com โปรดไปที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกของ Booking.com

รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล
*การสำรวจนี้ดำเนินการโดย Booking.com ซึ่งได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างด้วยตนเองจำนวน 29,349 คนใน 30 ประเทศและดินแดน (สหรัฐอเมริกา 1,000 คน แคนาดา 1,007 คน เม็กซิโก 1,000 คน โคลอมเบีย 964 คน บราซิล 1,000 คน อาร์เจนตินา 1,000 คน ออสเตรเลีย 999 คน นิวซีแลนด์ 941 คน สเปน 1,001 คน อิตาลี 1,000 คน ฝรั่งเศส 1,000 คน สหราชอาณาจักร 1,000 คน เยอรมนี 1,000 คน เนเธอร์แลนด์ 1,003 คน เดนมาร์ก 986 คน สวีเดน 1,000 คน โครเอเชีย 997 คน รัสเซีย 1,005 คน อิสราเอล 1,003 คน อินเดีย 1,000 คน จีน 1,000 คน ฮ่องกง 1,005 คน ไทย 968 คน สิงคโปร์ 963 คน ไต้หวัน 1,000 คน เวียดนาม 1,005 คน เกาหลีใต้ 1,000 คน ญี่ปุ่น 1,000 คน แอฟริกาใต้ 1,002 คน และเคนยา 500 คน) ผู้ที่จะเข้าร่วมทำแบบสอบถามนี้ได้จะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ได้เดินทางอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาและต้องกำลังวางแผนทริปสำหรับปี 2564 รวมทั้งเป็นผู้ตัดสินใจหลักหรือมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเดินทางของตนเอง แบบสอบถามนี้เปิดให้ทำทางออนไลน์ในเดือนมีนาคม 2564
เกี่ยวกับ Booking.com

Booking.com ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1996 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็กของเนเธอร์แลนด์ ก่อนเติบโตเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเดินทางระดับโลก และเป็นส่วนหนึ่งของ Booking Holdings Inc. (NASDAQ: BKNG) Booking.com มีพันธกิจ คือ ช่วยให้ทุกคนได้ออกไปสัมผัสโลกกว้างได้ง่ายดายยิ่งขึ้น เมื่อสถานการณ์ปลอดภัย จึงลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทาง และเชื่อมโยงผู้เดินทางหลายล้านคนเข้ากับประสบการณ์ที่น่าจดจำ ตัวเลือกด้านการเดินทางต่าง ๆ และที่พักน่าทึ่งได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่บ้านพักไปจนถึงโรงแรม และที่พักประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย ในฐานะที่เป็นตลาดออนไลน์ด้านการเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเสนอบริการทั้งจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับมาอย่างยาวนานและจากผู้ประกอบการทุกขนาด Booking.com ได้ช่วยให้ที่พักทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและทำให้ธุรกิจของที่พักเติบโต Booking.com ให้บริการใน 44 ภาษา มีตัวเลือกสำหรับเข้าพักทั้งหมดมากกว่า 28 ล้านรายการ โดยในจำนวนนี้รวมตัวเลือกบ้านพัก อพาร์ตเมนต์ และที่พักน่าทึ่งประเภทอื่น ๆ กว่า 6.5 ล้านรายการ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนหรือทำอะไร Booking.com ก็พร้อมช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายดายและมีบริการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามเราบน Twitter และ Instagram หรือกดถูกใจเราได้ที่ Facebook หากต้องการดูข่าวสาร ข้อมูล และข้อมูลเชิงลึกล่าสุด โปรดไปที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกของเรา