กรุงเทพฯ,
29
พฤศจิกายน
2016
|
13:49
Europe/Amsterdam

ลืมโอกาสพิเศษอื่นๆ ไปได้เลย เพราะการเดินทางท่องเที่ยวคือเคล็ดลับที่นำไปสู่ความสุขที่แท้จริง

  • ผู้เดินทางจำนวนเกือบครึ่ง (49%) ระบุว่าวันหยุดพักผ่อนทำให้พวกเขามีความสุขยิ่งกว่าวันแต่งงาน ในขณะที่อีกเกินครึ่ง (51%) ชอบการเดินทางท่องเที่ยวมากกว่าไปเดตกับคู่รัก
  • ผู้เดินทางราว 3 ใน 4 (77%) จองทริปวันหยุดเพื่อให้ตนเองมีรู้สึกดียิ่งขึ้นในเวลาที่ต้องการเพิ่มความสุขให้ตนเอง
  • ผู้เดินทางจำนวน 7 ใน 10 (70%) กล่าวว่าจะมีความสุขอย่างถึงที่สุดในช่วงทริปวันหยุดหากได้เข้าพักในที่พักซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
  • ผู้เดินทางกว่า 2 ใน 3 รู้สึกมีความสุขเมื่อได้เข้าพักในโรงแรม โฮสเทล หรือวิลล่า (67%) ส่วนอีก 1 ใน 3 สุขใจอย่างยิ่งเมื่อได้เข้าพักในอพาร์ตเมนต์หรือบ้านพักที่มีคนท้องถิ่นอาศัยอยู่ (33%)

ไม่ว่าทริปวันหยุดของคุณจะเป็นแบบไหนหรือเลือกที่พักแบบใด ไม่ว่าจะเป็นวิลล่าติดชายหาดสุดหรูระดับ 5 ดาว หรือเบดแอนด์เบรกฟาสต์แสนสบายในชนบท ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางนั้นทำให้เรามีความสุขอย่างยิ่ง

งานวิจัยซึ่งสอบถามผู้เดินทางทั่วโลก โดย Booking.com ผู้นำด้านการเชื่อมโยงผู้เดินทางกับที่พักอันยอดเยี่ยมได้เปิดเผยว่าการเดินทางสามารถเพิ่มความสุขให้แก่เราได้ โดยผู้เดินทางมองว่าการได้วางแผนและเดินทางไปทริปวันหยุดนั้นทำให้รู้สึกมีความสุขมากกว่าโอกาสพิเศษอื่นๆ ในชีวิต เช่น วันแต่งงาน (49%) การได้ไปเดตกับคู่รัก (51%) การได้งานใหม่ (50%) เตรียมตัวหมั้น (45%) และแม้แต่รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ (29%) นอกจากนี้ ผู้เดินทางกว่า 77% ยังกล่าวว่าพวกเขาจองทริปวันหยุดเพียงเพราะต้องการให้ตนเองรู้สึกดียิ่งขึ้น

งานวิจัยซึ่งสอบถามผู้เดินทาง 17,000 คนจาก 17 ประเทศ เปิดเผยว่า สำหรับผู้คนส่วนใหญ่แล้วประสบการณ์การเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็ก บูทีคเบดแอนด์เบรกฟาสต์ วิลล่าสำหรับครอบครัว หรือที่พักซึ่งอยู่ในดินแดนห่างไกลและแปลกใหม่ ล้วนทำให้รู้สึกมีความสุขในระยะยาวมากกว่าความสุขจากวัตถุสิ่งของต่างๆ (70%) ซึ่งเป็นเหตุผลทว่าเหตุใดผู้เดินทางส่วนใหญ่ (56%) จึงให้ความสำคัญกับทริปวันหยุดมากกว่าสิ่งของ เช่น เสื้อผ้า อัญมณี หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดพกพา ในขณะที่ผู้เดินทางเกือบครึ่ง (48%) ให้ความสำคัญกับการเดินทางมากกว่าการปรับปรุงบ้าน

ความสุขใจที่มาพร้อมการเดินทางนั้นเกิดขึ้นได้จากทุกขั้นตอนของการเดินทาง ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผน จองที่พัก ไปจนถึงช่วงที่เดินทาง และขั้นตอนวางแผนคือช่วงที่เพิ่มระดับความสุขได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยผู้เดินทางเกือบ 3 ใน 4 (72%) กล่าวว่าพวกเขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเพียงได้เริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทริปวันหยุด และผู้เดินทางเกินครึ่ง (56%) กล่าวว่าพวกเขารู้สึกมีความสุขที่สุดในขณะจองที่พักสำหรับทริปวันหยุด โดยเฉพาะเมื่อสามารถจองที่พักตรงใจและการจองได้รับการยืนยันทันที

นายชอว์น เอคอร์ (ศศ.บ., ศศ.ม. มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด) หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านความสุขของโลก นักเขียนหนังสือติดอันดับขายดีของ The New York Times และนักพูดผู้มีชื่อเสียงด้านการสนับสนุนจิตวิทยาเชิงบวก อธิบายว่า

"ในโลกที่เงินทุกบาททุกสตางค์และเวลาทุกนาทีเป็นสิ่งมีค่านั้น ผู้เดินทางมีความคาดหวังสูงกับสิ่งตอบแทนที่ได้รับจากเวลาและเม็ดเงินที่ทุ่มให้กับการเดินทาง คงไม่มีใครอยากลาหยุดและจ่ายเงินเพื่อไปทำสิ่งที่ทำให้เครียดยิ่งขึ้นและมีความสุขน้อยลง

ข้อมูลจากงานวิจัยชิ้นใหม่ของ Booking.com นี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างความสุขจากประสบการณ์การจองที่พักกับความสุขที่ได้รับจากการเดินทางจริง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หนึ่งในปัจจัยที่บ่งชี้ได้ว่าการเดินทางครั้งใดจะเป็นประสบการณ์แสนสุขหรือไม่นั้นสามารถคาดการณ์ได้จากประสบการณ์การจองที่พักที่สะดวกและราบรื่น โดยการวางแผนทริปอย่างดีและการจองที่พักได้อย่างทันใจและง่ายดายนั้น สามารถเพิ่มระดับความสุขให้ผู้เดินทางได้อย่างมากไม่ว่าที่พักหรือการเดินทางจะเป็นแบบใดก็ตาม และข้อมูลนี้ก็สอดคล้องกับข้อมูลจากงานวิจัยก่อนหน้าของผมซึ่งตีพิมพ์ใน Harvard Business Review โดยงานวิจัยนั้นเผยให้เห็นว่า ทริปพักร้อนที่ได้รับการวางแผนเป็นอย่างดีและปราศจากความเครียดนั้นจะช่วยให้ผู้เดินทางมีแนวโน้มกลับมาทำงานพร้อมพลัง ความทุ่มเท และความสุขที่เพิ่มขึ้นได้มากถึง 94%”

อันที่จริงแล้ว เราต่างชื่นชอบการวางแผนท่องเที่ยวและจองที่พัก โดยมีผู้เดินทางกว่า 1 ใน 3 ยอมรับว่าพวกเขาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทริปวันหยุดล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือน (35%) ส่วนผู้เดินทางอีก 5% ซึ่งตื่นเต้นกับทริปของตนเองอย่างมากจึงวางแผนล่วงหน้านานนับปี

เมื่อวางแผนและจองที่พักแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือการคาดว่าทริปที่วางแผนไว้จะเป็นอย่างไรบ้าง ผู้เดินทางจำนวน 1 ใน 4 ยอมรับว่า ในช่วงหลังจองที่พักเสร็จสิ้นจนถึงวันเดินทางนั้น พวกเขานึกถึงทริปวันหยุดที่รออยู่อย่างน้อยวันละครั้งเพื่อเพิ่มความสุขให้กับตนเอง (39%) นอกจากนี้ ผู้เดินทางจำนวน 8 ใน 10 (80%) ยังรู้สึกดีเมื่อได้ดูแผนที่และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวในระหว่างวางแผนการท่องเที่ยว และมากกว่าครึ่งชอบวางแผนท่องเที่ยวและซื้อเสื้อผ้าล่วงหน้าสำหรับใส่ช่วงทริปวันหยุด (52%) ในขณะที่ผู้เดินทางเกือบ 8 ใน 10 (79%) กล่าวว่าการได้เปิดดูภาพถ่ายของจุดหมายต่างๆ และที่พักที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ วิลล่า โรงแรม หรือเบดแอนด์เบรกฟาสต์ในช่วงก่อนวันเดินทางนั้นทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุข ส่วน 6 ใน 10 (61%) กล่าวว่าพวกเขาเพลิดเพลินกับการได้อ่านความคิดเห็นเกี่ยวกับที่พักที่จองไว้

อย่างไรก็ตาม ความสุขใจจากช่วงการรอคอยที่จะได้ไปทริปนั้นไม่อาจเทียบเท่าช่วงที่ได้ออกเดินทางจริง โดยมีผู้เดินทางจำนวน 6 ใน 10 (62%) กล่าวว่า รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันทีเมื่อได้ตั้งค่าอีเมลให้ตอบกลับอัตโนมัติสำหรับช่วงที่ไม่อยู่ออฟฟิศและเมื่อได้หยุดพักจากการทำงาน และเกือบ 9 ใน 10 (87%) กล่าวว่ารู้สึกมีความสุขที่สุดในวันแรกของทริปวันหยุด รวมถึงเมื่อได้ไปเห็นสถานที่จริงของที่พักที่จองไว้เป็นครั้งแรก (83%) นอกจากนี้ ผู้เดินทางอีก 70% ยังกล่าวว่า พวกเขาจะรู้สึกพึงพอใจที่สุดในช่วงทริปวันหยุดหากได้พักผ่อนในที่พักที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน และผู้เดินทางมากกว่า 2 ใน 3 กล่าวว่ารู้สึกสุขใจเมื่อได้เข้าพักในโรงแรม โฮสเทล หรือวิลล่า (67%) ในขณะที่อีก 1 ใน 3 นั้นกล่าวว่ารู้สึกมีความสุขที่สุดเมื่อได้พักในอพาร์ตเมนต์หรือบ้านพักเดียวกับคนท้องถิ่น (33%)

นายเอคอร์ ยังกล่าวต่อว่า

"งานวิจัยหลายชิ้นก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า “ช่วงการรอคอยที่จะได้ไปท่องเที่ยว” นั้นช่วยเพิ่มระดับความสุขได้อย่างมาก ซึ่งก็คือช่วงวางแผนและนึกภาพว่าการเดินทางจะเป็นอย่างไรบ้าง งานวิจัยชิ้นใหม่ของ Booking.com นี้แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าวสามารถเพิ่มระดับความสุขได้อย่างมาก ซึ่งอาจเทียบเท่ากับช่วงที่เตรียมตัวหมั้นหรือมากกว่าด้วยซ้ำ

จากการศึกษาวิจัยมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ผมพบว่าจุดแข็งที่สามารถนำไปแข่งขันได้ในโลกยุคปัจจุบันคือ สมองที่คิดเรื่องในเชิงบวกเป็นประจำ อันที่จริงแล้วเมื่อไม่นานมานี้ผมเพิ่งค้นพบว่า ผู้ที่ใช้วันลาพักร้อนจนหมดนั้นไม่เพียงมีความสุขมากขึ้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับโบนัสในช่วง 3 ปีถัดไปมากขึ้นถึง 34% อีกด้วย เรียกได้ว่าทริปแสนสุขส่งผลดีกับชีวิตจริง ๆ"

นายเดวิด มัว ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ Booking.com ให้ความเห็นว่า

“ด้วยมีผู้เดินทางจองที่พักกว่า 1.1 ล้านห้องผ่าน Booking.com ตลอด 24 ชั่วโมง เราจึงทราบดีว่าการเดินทางและการได้มีความสุขกับทริปที่สมบูรณ์แบบนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระดับความสุขโดยรวมของผู้เดินทาง นอกจากนี้ เรายังเข้าใจดีว่า สิ่งที่ทำให้ผู้เดินทางพึงพอใจในระหว่างทริปนั้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า เพราะเหตุใดเราจึงทุ่มเทอย่างมากในการช่วยผู้เดินทางให้สามารถค้นพบที่พักตรงใจและทริปที่เหมาะกับพวกเขา ไม่ว่าจะมีงบประมาณเท่าใด สนใจเกี่ยวกับอะไร หรือต้องการอะไรก็ตาม บางทีบ้านต้นไม้สไตล์เรียบง่ายในชนบทของสวีเดนอาจเป็นที่พักในฝันของคุณ ในขณะที่บางคนอาจชอบอพาร์ตเมนต์สุดหรูที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางโตเกียว ไม่ว่าจะเป็นที่พักแบบใดก็ตาม เราก็มีตัวเลือกให้คุณเสมอ

“งานวิจัยนี้เผยให้เห็นถึงความรู้สึกตื่นเต้นของผู้เดินทางในเวลาที่พวกเขาสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายที่ต้องการไปเยือน รวมถึงที่พักประเภทต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ด้วยตัวเลือกที่พักกว่า 1 ล้านแห่งทั่วโลก รวมมากกว่า 23 ล้านห้อง และมีให้เลือกมากกว่า 30 ประเภทในจุดหมาย 94,000 แห่งทั่วโลก ผู้เดินทางจะรู้สึกมีความสุขอย่างแน่นอนเพียงแค่ใช้บริการจองที่พักจาก Booking.com”