กรุงเทพฯ,
19
เมษายน
2017
|
11:19
Europe/Amsterdam

Booking.com เผยถึงความตั้งใจ เป้าหมาย และสิ่งที่ต้องคำนึงเกี่ยวกับ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนประจำปี พ.ศ. 2560

 

กรุงเทพฯ - 19 เมษายน 2560 - เพื่อฉลองวันคุ้มครองโลกในวันที่ 22 เมษายนนี้ Booking.com ในฐานะผู้นำระดับโลกที่เชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักหลากหลายประเภท ได้เผยถึงสิ่งที่ค้นพบจากรายงานด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั่วโลก[i] ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาซึ่งองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาของโลก งานวิจัยชิ้นใหม่นี้แสดงถึงสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับการตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อมในกลุ่มผู้เดินทางและผู้ประกอบการด้านที่พัก

ความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ผู้เดินทางทั่วโลกกว่าร้อยละ 65 มุ่งเข้าพักในที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนเพียงร้อยละ 34 นอกจากนี้ ผู้เดินทางกว่าร้อยละ 68 ยังยืนยันว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะจองที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เดินทางชาวจีน (ร้อยละ 93) ชาวบราซิล (ร้อยละ 83) และชาวสเปน (ร้อยละ 80) ทั้งนี้ผู้เดินทางกว่าร้อยละ 79 กล่าวว่า การตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อมนั้น ส่งผลต่อวิธีการเดินทางของพวกเขา กล่าวคือ ร้อยละ 43 ของผู้เดินทางเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะทุกครั้งที่มีโอกาส ส่วนอีกร้อยละ 42 พยายามที่จะเดินเท้า ปั่นจักรยาน หรือเดินขึ้นเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเกือบ 1 ใน 5 (ร้อยละ 18) จะเดินทางโดยเครื่องบินน้อยลงเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ (Carbon Footprint)

เมื่อผู้เดินทางจากทั่วโลกตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจากความหรูหรามาเป็นที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พวกเขายินดีที่จะยอมรับความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ อาทิ ผู้เดินทางกว่าร้อยละ 94 ยินดีพักในที่พักซึ่งใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน อีกร้อยละ 89 เต็มใจเข้าพักในที่พักที่เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อนจะทำงานก็ต่อเมื่อพวกเขาอยู่ในห้องเท่านั้น และร้อยละ 80 ไม่มีปัญหากับการใช้ฝักบัวแบบประหยัดน้ำ ข้อมูลจากตารางด้านล่างนี้แสดงให้เห็นถึงการยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในที่พักซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้เดินทางจากทั่วโลก:

     การเปลี่ยนแปลงที่ผู้เดินทางต่างยอมรับ เพื่อที่จะเข้าพักในที่พัก      

ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม:

หลอดประหยัดไฟ

  ร้อยละ 94   

เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องทำความร้อนที่จะเริ่มทำงาน

ก็ต่อเมื่อท่านอยู่ในห้องพักเท่านั้น

ร้อยละ 89

ฝักบัวแบบประหยัดน้ำ

ร้อยละ 80

กระดาษชำระแบบรีไซเคิล

ร้อยละ 79

การเติมเครื่องใช้ภายในห้องน้ำไม่บ่อยมากนัก

ร้อยละ 79

เปลี่ยนชุดเครื่องนอนและผ้าเช็ดตัวไม่บ่อยมากนัก

ร้อยละ 75

ราคาอาหารสูงขึ้นเพราะปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่น

ร้อยละ 64

กหลายประเทศ

จุดมุ่งหมายของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นิยามของคำว่า “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ของแต่ละบุคคลนั้นย่อมแตกต่างกันออกไป แต่บทบาทของที่พักในการช่วยเหลือผู้เดินทางให้บรรลุจุดหมายของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนั้นชัดเจน ทั้งนี้งานวิจัยพบว่า ผู้เดินทางเกินครึ่ง (ร้อยละ 56) มองว่าการเข้าพักในที่พักซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นถือเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมักจะเป็นสิ่งแรกที่ผู้เดินทางนึกถึงเมื่อกล่าวถึง “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” สำหรับผู้เดินทางกว่า 1 ใน 3 (ร้อยละ 38) มองว่าการประหยัดน้ำโดยใช้ผ้าเช็ดตัวและผ้าปูเตียงผืนเดิมก็เป็นอีกหนึ่งวิธี และผู้เดินทางบางส่วน (ร้อยละ 35) นึกถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยลดการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง แชมพู สบู่ แปรงสีฟัน และใบมีดโกน

สำหรับหลายๆ คน การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอาจมีความหมายเทียบเท่ากับการสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นอย่างแท้จริง โดยผู้เดินทางร้อยละ 38 คิดว่าการซื้อสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นและสนับสนุนงานฝีมือของท้องถิ่นก็ถือเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่วนอีกร้อยละ 36 จะเลือกที่พักซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะรู้สึกว่าได้รับประสบการณ์ที่มีกลิ่นอายของความเป็นท้องถิ่นมากกว่า ตารางข้อมูลด้านล่างนี้แสดงถึงเหตุผลหลักที่ผู้เดินทางทั่วโลกเลือกที่พักซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

5 เหตุผลหลักที่ผู้เดินทางทั่วโลกเลือกที่พักซึ่ง

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม:

เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ร้อยละ 52

ที่พักเหล่านี้ทำให้ได้รับประสบการณ์แบบท้องถิ่นมากกว่า

ร้อยละ 36

ที่พักเหล่านี้ทำให้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนท้องถิ่นมากกว่า

ร้อยละ 31

ที่พักเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะให้บริการอาหารที่มาจากในท้องถิ่น และอาหารออร์แกนิคมากกว่า

ร้อยละ 30

ความต้องการที่จะสัมผัสเทรนด์ที่พักใหม่ ๆ

ร้อยละ 24

นายเปแปน แรฟเวอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Booking.com กล่าวว่า “เนื่องจากที่พักสำหรับช่วงวันหยุดนั้นมีบทบาทสำคัญต่อความสนุกสนานของการเดินทาง และยังมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยให้ผู้เดินทางสามารถท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการนำวัตถุดิบของท้องถิ่นมาใช้ในการปรุงอาหาร การใช้หรือจำหน่ายงานฝีมือของท้องถิ่น การอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและพลังงาน การสนับสนุนแนวคิดรีไซเคิล หรือการเชื่อมโยงผู้เดินทางเข้ากับชุมชนในท้องถิ่น ทุกวันนี้มีที่พักมากมายที่กำลังดำเนินงานตามแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยผู้เดินทางเองก็มุ่งมั่นที่จะทดลองและรับแนวคิดนี้มาปฏิบัติด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ที่เราได้เพิ่มตัวเลือกความสนใจ รวมถึงกิจกรรมแนะนำสำหรับจุดหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมลงบนเครื่องมือค้นหาของ Booking.com เราได้เห็นถึงจำนวนคำบอกต่อของผู้เดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น นั่นแสดงให้เห็นว่า ผู้เดินทางมีความสนใจในเรื่องของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น”

สิ่งที่ต้องคำนึงเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

5 ปัจจัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

และมีผลต่อการพิจารณาเลือกที่พัก:

ใช้พลังงานแสงอาทิตย์

ร้อยละ 67

มีระบบการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

ร้อยละ 43

ฝักบัวและโถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ

ร้อยละ 36

ให้บริการอาหารออร์แกนิก

ร้อยละ 31

มีถังขยะรีไซเคิลในห้องพัก

ร้อยละ 29

ถึงแม้จะมีผู้เดินเพียงร้อยละ 5 ที่คิดว่าการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ก็มีผู้เดินทางกว่าร้อยละ 46 ที่มองว่าตนเองเป็นผู้เดินทางประเภทดังกล่าว โดยเห็นได้จากจำนวนที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้เดินทางชาวอิตาลี เยอรมนี และจีนในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้เดินทางจากประเทศออสเตรเลีย บราซิล ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกากลับมีจำนวนลดลง (ร้อยละ 5, ร้อยละ8, ร้อยละ 4 และร้อยละ 4 ตามลำดับ) ตารางข้อมูลด้านล่างนี้แสดงถึง 5 ปัจจัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีผลต่อการพิจารณาเลือกที่พักของผู้เดินทางทั่วโลก

“Booking.com มีพันธกิจหนึ่งที่มุ่งช่วยให้ผู้เดินทางได้สัมผัสกับโลกกว้าง โลกที่ไม่ควรถูกมองข้าม โดยเรายังคงมุ่งแสวงหาวิธีการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาและแบ่งปันสิ่งที่คู่ค้าของเราทำเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวน การค้นหาและเลือกสรรบนเว็บไซต์ของเรา เมื่อเร็วๆ นี้ เราได้เริ่มต้นโครงการ Booking.com Booster ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของเราในการพัฒนาจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลก ผ่านโครงการที่จะช่วยผลักดันสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยงอย่างยั่งยืน โดยเราจะช่วยขยายผลลัพธ์ที่ได้จากสตาร์ทอัพเหล่านี้ให้ส่งผลไปยังวงกว้าง สิ่งที่จะช่วยให้อนาคตของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนี้มีความมั่นคงคือ ความร่วมมือ ซึ่งหมายถึงการแบ่งปันความรู้และทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้คนในจุดหมายต่างๆ ที่พัก ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว หรือแม้แต่ตัวผู้เดินทางเอง” นายเปแปน แรฟเวอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Booking.com กล่าวเสริม

[i] ข้อมูลนี้รวบรวมจาก 11 ประเทศ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 1,000 คนในแต่ละประเทศ ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามจะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี เดินทางมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้งในปีพ.ศ. 2559 และต้องวางแผนเดินทางอย่างน้อยอีก 1 ครั้งในปีพ.ศ. 2560 นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามจะต้องมีส่วนในการตัดสินใจเกี่ยวกับการวางแผนการเดินทาง ทั้งนี้ Booking.com รวบรวมข้อมูลเหล่านี้ในเดือนมีนาคมพ.ศ. 2560 โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการจากหลากหลายประเทศ