กรุงเทพฯ,
29
มีนาคม
2016
|
19:00
Europe/Amsterdam

การทำผิดมารยาททางสังคมในโลกธุรกิจมีผลกระทบ

การไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมกำลังส่งผลกระทบกับบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก

กรุงเทพฯ, 30 มีนาคม 2559- ในขณะที่โอกาสในการสร้างความประทับใจแรกนั้นมีเพียงครั้งเดียว ซึ่งสำคัญมากสำหรับการติดต่อทางธุรกิจในโลกของธุรกิจยุคโลกาภิวัฒน์ ผลวิจัยจาก Booking.com ซึ่งเผยแพร่วันนี้ระบุว่าการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับมารยาททางธุรกิจนั้นกำลังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ผลการวิจัยนี้ได้รับการยืนยันโดยกลุ่มผู้เดินทางติดต่อธุรกิจถึงร้อยละ 62 ว่าการทำผิดมารยาททางสังคมในการทำธุรกิจนั้นส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท

Booking.com ผู้นำระดับโลกในการเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้เดินทางติดต่อธุรกิจกับที่พักหลากหลายประเภท ได้ดำเนินการวิจัยโดยการสัมภาษณ์ผู้เดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจกว่า 4,500 ท่านจาก 8 ประเทศ ในด้านทัศนคติต่อมารยาทในการติดต่อธุรกิจ ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า 1 ใน 3 ของผู้เดินทางติดต่อธุรกิจ (ร้อยละ 32) ยอมรับว่าเคยทำผิดมารยาททางสังคมเมื่อต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจในต่างประเทศ ราวครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 49) กังวลว่าตนเองจะทำให้ลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจไม่พอใจโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจเกือบครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 45) เคยมีประสบการณ์ที่เพื่อนร่วมงานหรือพันธมิตรทางธุรกิจจากต่างประเทศได้ทำผิดมารยาททางสังคม

มารยาทเป็นเรื่องสำคัญ

ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจนั้นทราบดีถึงความสำคัญของการปฏิบัติตัวตามมารยาทที่ถูกต้องเหมาะสม ทั้งนี้ ร้อนละ 83 กล่าวว่า การทราบถึงบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมเมื่อเดินทางไปติดต่อธุรกิจในต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ผู้เดินทาง 3 ใน 4 (ร้อยละ 73) เผยว่าพวกเขาได้ค้นคว้าเกี่ยวกับประเทศที่จะไปล่วงหน้า เพื่อที่จะเข้าใจมารยาทในการติดต่อธุรกิจของประเทศนั้นๆ ได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังพลาดพลั้งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ประเทศ 5 อันดับแรกที่ยอมรับว่าได้ทำผิดมารยาทในการทำธุรกิจ

 

ประเทศจีน

67%

ประเทศอิตาลี

65%

ประเทศสหรัฐอเมริกา

58%

ประเทศเยอรมนี

56%

ประเทศสเปน

52%

ในขณะที่กว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มผู้เดินทางติดต่อธุรกิจกังวลว่าตนเองจะทำให้ลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจไม่พอใจโดยไม่รู้ตัวนั้น ผู้เดินทางเพื่อธุรกิจชาวสเปนกังวลเรื่องนี้มากที่สุด (ร้อยละ 62) ส่วนผู้เดินทางชาวญี่ปุ่นนั้นเป็นกลุ่มที่กังวลเรื่องนี้น้อยที่สุด (ร้อยละ 30)

ดื่ม รับประทานอาหาร และระวังการคุยเรื่องสัพเพเหระ

ถึงแม้ว่าอาหารจะเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งของชีวิต แต่การร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงานหรือพันธมิตรทางธุรกิจกลับสร้างความกังวลให้กับผู้เดินทางติดต่อธุรกิจจำนวนมาก เพราะพฤติกรรมระหว่างรับประทานอาหารนั้นอาจไม่เป็นที่ยอมรับในวัฒนธรรมอื่นๆ โดย 1 ใน 4 ของผู้เดินทางรู้สึกกังวลเมื่อต้องรับประทานอาหารกับคนที่ไม่คุ้นเคย หรือการไปร้านอาหารที่ไม่สามารถดำเนินการตามคำขอเรื่องอาหารของพวกเขา นอกจากนั้น 1 ใน 3 (ร้อยละ 30) ของกลุ่มตัวอย่าง กังวลว่าร้านจะเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และผู้เดินทางจำนวนพอๆ กัน (ร้อยละ 32) รู้สึกกังวลเมื่อต้องพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับคนที่ไม่คุ้นเคย

กรุณาปิดโทรศัพท์มือถือ

เมื่อพูดถึงสิ่งที่คนทั่วโลกคิดว่าเป็นข้อผิดพลาดในเรื่องมารยาทการทำธุรกิจ ผู้เดินทางเกือบครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 46) เห็นว่าการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างการประชุมนั้นถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากที่สุด ผู้เดินทางชาวอังกฤษ (ร้อยละ 57) และชาวอเมริกันมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 55) มีแนวโน้มที่จะบอกว่าการใช้โทรศัพท์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด ในขณะที่ผู้เดินทางชาวญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวน้อยกว่า (ร้อยละ 30)

ผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลและพกพา คือผู้คนไม่รู้ว่าจะทักทายอย่างเหมาะสมได้อย่างไร ซึ่ง 2 ใน 5 ของผู้เดินทางติดต่อธุรกิจทั่วโลก (ร้อยละ 43) รู้สึกว่าการไม่ทักทายพันธมิตรทางธุรกิจนั้นถือเป็นการเสียมารยาทมากที่สุดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจชาวญี่ปุ่นถึง 3 ใน 5 คนให้ความสำคัญเรื่องการทักทายที่ไม่เหมาะสมมากที่สุด (ร้อยละ 61) โดยถือว่านี่เป็นการแสดงความหยาบคายอย่างที่สุด ในขณะที่ครึ่งหนึ่งของผู้ร่วมทำการวิจัยชาวจีน (ร้อยละ 50) คิดว่าการพูดเสียงดังเป็นข้อบกพร่องทาววัฒนาธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศของพวกเขา

ข้อผิดพลาดเรื่องมารยาททางธุรกิจ 5 อันดับแรก

 

การใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างประชุม

46%

การไม่ทักทายผู้อื่นอย่างเหมาะสม

43%

การแต่งกายไม่เหมาะสม

36%

การพูดเสียงดัง

32%

การไม่ตอบอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง

19%

20 วิธีในการกล่าวคำขอโทษ

ควรทำอย่างไรหากท่านได้แสดงมารยาทที่ไม่เหมาะสมกับพันธมิตรทางธุรกิจชาวต่างชาติโดยไม่รู้ตัว (หรือโดยรู้ตัวก็ตาม)

ผู้เดินทางชาวญี่ปุ่น 7 ใน 10 คน (ร้อยละ 69) แนะนำให้รับมือกับปัญหาโดยการกล่าวขอโทษทันที ในขณะที่ผู้เดินทางติดต่อธุรกิจชาวอิตาลีเพียงร้อยละ 37 เท่านั้นที่แก้ปัญหาด้วยวิธีการดังกล่าว ทั้งนี้ 1 ใน 4 ของผู้เดินทางชาวอิตาลี (ร้อยละ 26) บอกว่าพวกเขาจะลองปล่อยมุกตลกเพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ใช้วิธีการนี้มากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

นางริบซี่ บานดัวร์เลียน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ Booking.com เพื่อธุรกิจ ได้แสดงความเห็นว่า

“การได้สัมผัสกับวัฒนธรรมใหม่ๆ เป็นสิ่งที่น่ารื่นรมย์ที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับผู้เดินทางติดต่อธุรกิจ อย่างไรก็ตามการที่จะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นในเศรษฐกิจระดับโลกยุคปัจจุบันนี้ บรรดาผู้บริหารต้องสามารถปรับเปลี่ยนตนเองให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมต่างๆ ท่าทางหรือพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในประเทศหนึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่พอใจเมื่ออยู่ในอีกประเทศหนึ่ง และสิ่งนี้สามารถทำให้ข้อตกลงบรรลุผลหรือล้มเหลวก็ได้ ดังนั้น Booking.com จึงพยายามพัฒนานวัตกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ชีวิตของผู้เดินทางติดต่อธุรกิจง่ายดายยิ่งขึ้น เนื่องจาก 1 ใน 5 รายการจองบนเว็บไซต์ของเรานั้นเป็นการจองสำหรับธุรกิจ และบริษัทหลายแสนแห่งก็ใช้เครื่องมือ Booking.com สำหรับธุรกิจ ดังนั้น Booking.com สำหรับธุรกิจ จึงสร้างสรรค์โครงการ ‘Better-quette’ ขึ้น ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย ตลอดจนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้การเดินทางของผู้เดินทางเพื่อธุรกิจสะดวกสบายและเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นได้ท่ามกลางโลกธุรกิจที่ซับซ้อน”