Bangkok,
25
พฤศจิกายน
2020
|
10:57
Europe/Amsterdam

ฉลาดเลือก รักษ์โลก และปลอดภัยขึ้น: BOOKING.COM เผยแนวโน้มสำคัญเกี่ยวกับอนาคตการเดินทาง

 

  • ในบรรดานักเดินทางทั่วโลก คนไทยต้องการจะกลับมาเดินทางและไปสำรวจจุดหมายปลายทางด้วยรถยนต์มากที่สุด โดยคนไทยยังให้ความสนใจกับการสัมผัสความสุขแบบง่ายๆ รวมถึงเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง
  • นักเดินทางชาวไทยใส่ใจต่อความปลอดภัยและแสดงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยระหว่างการเดินทางมากที่สุดเป็นอันดับแรกของโลก

การเดินทางท่องเที่ยวในอนาคตจะเปลี่ยนไปตลอดกาลด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 Booking.com ผู้นำด้านการเดินทางดิจิทัลจึงเปิดเผยแนวโน้มสำคัญสำหรับผู้เดินทางชาวไทยปีหน้าและในอนาคต โดยการคาดการณ์แนวโน้มการเดินทางจาก Booking.com ครั้งนี้ เป็นการรวมผลสำรวจจากนักเดินทางกว่า 20,000 คนจาก 28 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก กับข้อมูลเชิงลึกจากพฤติกรรมการค้นหาและการรีวิวของนักเดินทางบนแพลตฟอร์ม ตลอดจนความเชี่ยวชาญกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

โดยผลสำรวจจากการคาดการณ์แนวโน้มสำคัญต่ออนาคตการเดินทางแสดงให้เห็นว่านักเดินทางชาวไทยเป็นหนึ่งในนักเดินทางที่มองโลกในแง่ดีและมีประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุดในหลายๆ ด้านเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อการพักผ่อน แม้ว่าภาวะสถานการณ์ในปัจจุบันจะดำเนินติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว โดย Booking.com เห็นว่านักท่องเที่ยวจะยังคงหาวิธีตอบสนองต่อความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวเท่าที่สามารถทำได้ตราบใดที่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะต้องปรับตัวให้ทันกับความต้องการที่เปลี่ยนไปของนักเดินทาง

พร้อมสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์

โดยเฉลี่ย 58% ของนักเดินทางทั่วโลกกำลังมองหาการท่องเที่ยวในภูมิภาคใกล้เคียงหรือจุดหมายปลายทางที่เข้าถึงได้โดยรถยนต์ ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 73% นับเป็นตัวเลขสูงสุดใน 28 ประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น 85% ของนักเดินทางชาวไทยชอบการดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่เรียบง่าย และ 80% เต็มใจที่จะแสวงหาประสบการณ์การท่องเที่ยวในต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยมีใครไป เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง รวมถึงกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือมีนักท่องเที่ยวชาวไทยถึง 82% ต้องการเห็นเงินของพวกเขาได้กลับไปช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น โดย 84% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยต้องการเลือกการเดินทางที่สร้างประโยชน์ มีส่วนร่วมฟื้นฟูท้องถิ่น นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลก

ผลสำรวจยังเผยศักยภาพในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมีการเปิดให้เดินทางภายในประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวยังแสดงความสนใจในการไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวภายในท้องถิ่น สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนท้องถิ่น

นักเดินทางยุคดิจิทัล

นักเดินทางชาวไทยแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการกลับมาเดินทางมากกว่านักเดินทางในประเทศอื่นๆ โดยนักเดินทางชาวไทยถึง 68% ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวเป็นประจำราวอาทิตย์ละครั้ง เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกเพียง 38% ซึ่งช่วงที่ต้องทำงานจากบ้านหรือ Work from Home ในปีนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยเลือกทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้น โดย 6 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวชาวไทยกล่าวว่าเคยมองหาการจองที่พักช่วงวันทำงานเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หรือที่เรียกว่า Workcation นับเป็นตัวเลขที่สูงเป็นอันดับสองของโลก

นอกจากนี้ คนไทยยังเชื่อมั่นในเทคโนโลยีมากที่สุดในบรรดานักเดินทางทั่วโลก โดย 81% ยอมรับว่าเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการควบคุมความเสี่ยงด้านสุขอนามัยระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว และนักเดินทางชาวไทยจำนวนเดียวกันที่ 81% เชื่อว่านวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการเดินทางจะถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างมากที่เราจะได้เห็นความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวและผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีมาช่วยกันยกระดับการให้บริการ เพื่อให้นักเดินทางได้รับความสะดวกสบายและความมั่นใจมากขึ้นเมื่อการแพร่ระบาดหยุดลง

ปลอดภัยไว้ก่อน

เมื่อพูดถึงมาตรการด้านสุขภาพระหว่างการเดินทาง คนไทยให้ความสำคัญกับมาตรการด้านนี้มากที่สุดในโลก และเลือกปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยทางสุขภาพ โดยนักท่องเที่ยวชาวไทย 86% ยอมให้ตรวจสุขภาพเมื่อเดินทางถึงที่พัก อีก 87% ยอมสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และ 86% เลือกจองเฉพาะที่พัก ที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการด้านสุขภาพและอนามัยไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากสุขภาพและความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดทาง Booking.com ขอเป็นกำลังสำคัญในการเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว โดยให้เหล่าที่พักคู่ค้าระบุมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยไว้อย่างชัดเจน บนเว็บไซต์ Booking.com มีการใช้ฟีเจอร์ตัวกรอง "สุขภาพและความปลอดภัย" เพื่อให้นักเดินทางค้นหาที่พักที่มีมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สองฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นเพียงบางส่วนของมาตรการจาก Booking.com เพื่อตอบสนองต่อความเป็นจริงของการเดินทางที่เปลี่ยนไปเพื่อเชื่อมโยงนักเดินทางชาวไทยกับที่พักคู่ค้าได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Booking.com ยังสนับสนุนและส่งเสริมการเดินทางภายในประเทศผ่านวิธีการหลากหลาย รวมถึงได้สร้างการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรต่างๆ อาทิ ShopBack, Grab, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงไทย และธนาคารซิตี้แบงก์ โดยมอบข้อมูลเชิงลึกรวมถึงทรัพยากรต่างๆ แก่พันธมิตร เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอีกครั้ง รวมถึงยังร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ชาวไทยเพื่อสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคชาวไทยโดยตรง

นางสาวมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงของ Booking.com กล่าวว่า “แม้ว่าปี 2563 เป็นปีที่คาดเดาไม่ได้ แต่เราก็ได้รับกำลังใจล้นหลามจากความคิดเชิงบวกและการมองโลกในแง่บวกของนักเดินทางชาวไทยที่มีต่ออนาคตของการเดินทาง นี่เป็นบทพิสูจน์ต่อความสำคัญของการเดินทางในชีวิตของพวกเราทุกคน รวมถึงช่วงเวลาแห่งความสุขและแรงบันดาลใจจากผู้คนในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ ด้วยพันธกิจในการที่จะช่วยให้ทุกคนออกไปสัมผัสโลกกว้างได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ทาง Booking.com รู้สึกยินดีที่มีส่วนร่วมในการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้โดยเฉพาะกับพันธมิตรของเรา เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเดินทางชาวไทยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและคุ้มค่าที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อให้พวกเขาสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์สุดประทับใจที่หาได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น”

 

รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล / หมายเหตุแก่บรรณาธิการ
*การสำรวจข้อมูลนี้ดำเนินการโดย Booking.com โดยได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งได้เดินทางทริปธุรกิจหรือทริปพักผ่อนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และต้องมีแผนที่จะเดินทางในช่วง 12 เดือนนับจากนี้ (หาก/เมื่อมีการยกเลิกการจำกัดการเดินทาง) ผู้เข้าร่วมการสำรวจมีจำนวนทั้งหมด 20,934 คนใน 28 ประเทศ/ภูมิภาค (สหรัฐอเมริกา 999 คน แคนาดา 496 คน เม็กซิโก 497 คน โคลอมเบีย 997 คน บราซิล 999 คน อาร์เจนตินา 499 คน ออสเตรเลีย 995 คน นิวซีแลนด์ 499 คน สเปน 999 คน อิตาลี 996 คน ฝรั่งเศส 996 คน สหราชอาณาจักร 999 คน เยอรมนี 996 คน เนเธอร์แลนด์ 498 คน เดนมาร์ก 499 คน สวีเดน 499 คน โครเอเชีย 498 คน รัสเซีย 1,001 คน อิสราเอล 498 คน อินเดีย 997 คน จีน 994 คน ฮ่องกง 499 คน ไทย 497 คน สิงคโปร์ 496 คน ไต้หวัน 499 คน เกาหลีใต้ 997 คน เวียดนาม 500 คน และญี่ปุ่น 995 คน) ผู้เข้าร่วมได้ทำแบบสอบถามทางออนไลน์ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563
เกี่ยวกับ Booking.com

Booking.com ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1996 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็กของเนเธอร์แลนด์ ก่อนเติบโตเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเดินทางระดับโลก และเป็นส่วนหนึ่งของ Booking Holdings Inc. (NASDAQ: BKNG) Booking.com มีพันธกิจ คือ ช่วยให้ทุกคนได้ออกไปสัมผัสโลกกว้างได้ง่ายดายยิ่งขึ้น จึงลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทาง และเชื่อมโยงผู้เดินทางหลายล้านคนเข้ากับประสบการณ์ที่น่าจดจำ ตัวเลือกด้านการเดินทางต่าง ๆ และที่พักน่าทึ่งได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่บ้านพักไปจนถึงโรงแรม และที่พักประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย ในฐานะที่เป็นตลาดออนไลน์ด้านการเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเสนอบริการทั้งจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับมาอย่างยาวนานและจากผู้ประกอบการทุกขนาด Booking.com ได้ช่วยให้ที่พักทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและทำให้ธุรกิจของที่พักเติบโต Booking.com ให้บริการใน 44 ภาษา มีตัวเลือกสำหรับเข้าพักทั้งหมดมากกว่า 29 ล้านรายการ โดยในจำนวนนี้รวมตัวเลือกบ้านพัก อพาร์ตเมนต์ และที่พักน่าทึ่งประเภทอื่น ๆ กว่า 6.6 ล้านรายการ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนหรือทำอะไร Booking.com ก็พร้อมช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายดายและมีบริการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ติดตามเราบน Twitter และ Instagram หรือกดถูกใจเราได้ที่ Facebook หากต้องการดูข่าวสาร ข้อมูล และข้อมูลเชิงลึกล่าสุด โปรดไปที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกของเรา