Bangkok,
26
เมษายน
2019
|
05:40
Europe/Amsterdam

Booking.com เผยการค้นพบเรื่องสำคัญจากรายงานด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนปี 2562

  • 72% ของผู้เดินทางทั่วโลกเห็นตรงกันว่า “ควรลงมือตั้งแต่ตอนนี้และเลือกสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่ออนุรักษ์โลกให้คนรุ่นต่อๆ ไป”
  • ผู้เดินทางทั่วโลกมากกว่าครึ่ง (55%) กล่าวว่าจะมุ่งมั่นเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้ยิ่งขึ้นกว่าปีที่แล้ว ทว่าอาจมีอุปสรรคอย่างเช่น การขาดความรู้ และไม่มีตัวเลือกน่าสนใจมากนักสำหรับให้ลงมือทำจริง

กรุงเทพฯ – 22 เมษายน 2019 – ในขณะที่ทุกคนต่างกำลังเตรียมพร้อมฉลองวันคุ้มครองโลกในวันที่ 22 เมษายนนี้ ก็ถือเป็นโอกาสดีที่ Booking.com หนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านช่องทางออนไลน์ด้านการเดินทาง จะเผยผลสำรวจจากรายงานด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี จากงานวิจัยพบว่าผู้เดินทางเกือบ 3 ใน 4 (72%) เชื่อว่าผู้คนต้องลงมือตั้งแต่ตอนนี้เรื่องการเดินทางอย่างยั่งยืนเพื่อรักษาโลกไว้ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป ผลสำรวจนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันจากผู้ตอบทุกช่วงอายุ โดยกลุ่มที่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวมากที่สุดคือผู้ตอบที่อายุ 46-55 ปี ซึ่งมีผู้เห็นด้วยถึงเกือบ 3 ใน 4 (74%) ตามมาด้วยคนยุคเจนวาย 71% เรียกได้ว่าทัศนคติเหล่านี้สะท้อนมาจากผู้เดินทางทั่วโลกในเวลาที่ใช่ เพราะรายงานพิเศษของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ซึ่งออกในปี 2018 ได้ยืนยันว่าโลกเหลือเวลาเพียงแค่ 10 กว่าปีเท่านั้นที่จะควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม (pre-industrial level) ไม่เช่นนั้นความเสี่ยงที่โลกจะประสบอุทกภัย ความแห้งแล้ง และภาวะความร้อนสุดโต่งก็จะเลวร้ายมากขึ้นอย่างชัดเจน

ที่พักรักษ์โลก

ทุกวันนี้จำนวนการเข้าพักแบบรักษ์โลกได้เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับความตั้งใจโดยรวมที่ต้องการให้การเดินทางเป็นไปอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยผู้เดินทางทั่วโลกเกือบ 3 ใน 4 (73%) ตั้งใจที่จะเข้าพักที่ที่พักสีเขียวหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างน้อยสักครั้งเมื่อเดินทางในปีต่อไป จากผลสำรวจของ Booking.com พบว่าตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จาก 62% ในปี 2016 เป็น 65% ในปี 2017 และ 68% ในปี 2018** นอกจากนี้ 70% ของผู้เดินทางทั่วโลกยั่งกล่าวว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่จะจองที่พักซึ่งเห็นว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้คำนึงว่าการเข้าพักจะเป็นไปอย่างยั่งยืนหรือไม่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึงการแยกแยะที่พักรักษ์โลก ผู้เดินทางทั่วโลกเกือบ 3 ใน 4 (72%) กล่าวว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามีการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับที่พักด้วย ในขณะที่ผู้เดินทางมากกว่า 1 ใน 3 (37%) เห็นพ้องว่าการมีมาตรฐานสากลสำหรับบ่งชี้ที่พักรักษ์โลกจะช่วยกระตุ้นให้เดินทางได้อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น และ 62% จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อเข้าพักหากทราบว่าที่พักดังกล่าวได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม

อุปสรรคต่อการรักษ์โลก

ถึงแม้ว่าจะมีความตั้งใจเต็มเปี่ยม แต่ก็ใช่ว่าหนทางสู่การเป็นผู้เดินทางหัวใจสีเขียวจะราบรื่นเสมอไป จากการสำรวจพบว่าอุปสรรคทั่วไปที่ขวางกั้นผู้เดินทางไม่ให้เลือกสิ่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเมื่อเดินทางมีดังนี้

 

ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกที่เห็นด้วย

ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้การเดินทางเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

37%

 

ถึงจะเจอตัวเลือกด้านการเดินทางที่รักษ์โลกมากขึ้น แต่ก็มีตัวเลือกอื่น ๆ ที่น่าสนใจกว่า

34%

มีงบไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเดินทางแบบรักษ์โลก

36%

แผนการเดินทางจำกัดตัวเลือกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เลือกได้

34%

จุดหมายด้านการเดินทางแบบยั่งยืนน่าดึงดูดใจน้อยกว่าจุดหมายอื่น

34%

ฉันรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างจึงจะเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

50%

ผู้เดินทางเห็นว่าบริษัทด้านการเดินทางมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ โดยมีผู้เดินทาง 71% คิดว่าบริษัทด้านการเดินทางควรเสนอตัวเลือกสำหรับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้ลูกค้า อย่างไรก็ตามผู้เดินทางทั่วโลกเกือบครึ่ง (46%) ยอมรับว่าการตัดสินใจเลือกสิ่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตอนไปเที่ยวนั้นยากกว่าการเลือกในชีวิตประจำวันทั่วไป โดยผู้เดินทางทั่วโลกเกือบ 1 ใน 3 (31%) ระบุว่าการท่องเที่ยวถือเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ไม่อยากมาคิดถึงเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

จากการตั้งเป้าหมายไปสู่การลงมือจริง

ผลการสำรวจยังพบอีกด้วยว่าผู้เดินทางจะเกิดแรงกระตุ้นให้เดินทางแบบรักษ์โลกมากขึ้นหากมีแรงจูงใจด้านการเงิน เช่น มีการลดหย่อนภาษีเมื่อเลือกตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (46%) และที่ตามมาติด ๆ ก็คือเว็บไซต์สำหรับจองออนไลน์มีตัวเลือกจำกัดการค้นหาที่รักษ์โลกหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อพูดถึงการสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ ในจุดหมาย ผู้เดินทางทั่วโลกกว่าครึ่ง (52%) กล่าวว่าได้เปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้รักษ์โลกมากขึ้นตอนที่เดินทาง เช่น เดิน ขี่จักรยาน หรือเดินป่าถ้าทำได้ นอกจากนี้มี 68% ที่กล่าวว่าอยากให้เงินที่ใช้จ่ายไปตอนที่เดินทางไปถึงชุมชนในท้องถิ่น และในทำนองเดียวกัน ผู้เดินทางทั่วโลกเกือบ 3 ใน 4 (72%) ต่างก็มองหาโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่วน 2 ใน 5 (41%) ต้องการให้บริษัทด้านการเดินทางแนะนำว่าจะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างไรตอนที่เดินทาง และผู้ตอบแบบสอบถาม 56% กล่าวว่าถ้าที่พักในทริปท่องเที่ยวมีตัวเลือกที่จะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ก็จะเลือกสิ่งนั้น

“ปีนี้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่ Booking.com ได้จัดทำรายงานด้านการเดินทางแบบยั่งยืนขึ้น และก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่เห็นผู้เดินทางมีความมุ่งมั่นและพยายามที่จะเดินทางอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่ายังคงมีความท้าทายที่ซับซ้อนอยู่หากต้องการที่จะตระหนักถึงการเดินทางแบบรักษ์โลกได้อย่างเต็มที่” นายเปแปน แรฟเวอร์ส รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายที่พักของ Booking.com กล่าว “ในฐานะที่เราเป็นผู้นำระดับโลกด้านการเดินทาง เราจึงมองหาวิธีสร้างนวัตกรรมบนแพลตฟอร์มของเราอยู่เสมอ ซึ่ีงครอบคลุมตั้งแต่ที่พัก ไปจนถึงการสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ และการเดินทาง โดยได้ทดสอบวิธีต่าง ๆ ที่จะเผยข้อมูลและมอบความช่วยเหลือให้ลูกค้าในการเลือกตัวเลือกด้านการเดินทางแบบยั่งยืน นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนและลงทุนด้านนวัตกรรมในแวดวงการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนผ่านทางโปรแกรมต่าง ๆ สำหรับบริษัทสตาร์ทอัพ เช่น Booking Booster, Cares Fund และ Cares Lab และสิ่งที่สำคัญก็คือทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมด้านการเดินทาง ทั้งบริษัทที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานไปจนถึงบริษัทสตาร์ทอัพ จุดหมายการท่องเที่ยว ที่พัก บริการด้านการเดินทาง และผู้ให้บริการสิ่งที่น่าสนใจ ตลอดจนตัวนักท่องเที่ยวเองจะต้องร่วมมือกัน เพราะมีแต่การร่วมแรงร่วมใจเท่านั้นที่จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย และดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน”

- จบ -

การเก็บข้อมูล
การสารวจนี้ดาเนินการโดยBooking.com โดยได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งเดินทางในช่วง12 เดือนที่ผ่านมาและมีแผนที่จะเดินทางในช่วง12 เดือนข้างหน้ามีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด 18,077 คนจาก 18 ตลาด (ประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า1,000 คนได้แก่บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศสเยอรมนีอินเดียอินโดนีเซียอิตาลีญี่ปุ่นเม็กซิโกเนเธอร์แลนด์เกาหลีใต้สเปนไต้หวันสหราชอาณาจักรสหรัฐอเมริกาส่วนในอิสราเอลมีผู้ตอบแบบสอบถาม 883 คน) ผู้เข้าร่วมได้ทาแบบสอบถามทางออนไลน์ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมพ.ศ. 2562** แม้ว่าปีนี้แบบสอบถามจะครอบคลุมตลาดเพิ่มอีก6 แห่งทว่าหากคานวณจากเฉพาะตลาดเดียวกับที่ทาแบบสอบถามเมื่อปีที่แล้วก็พบว่าตัวเลขนี้สูงถึง72%
เกี่ยวกับ Booking.com
Booking.com B.V. ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1996 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็ก ก่อนเติบโตเป็นหนึ่งในบริษัทอีคอมเมิร์ซด้านการเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน Booking.com เป็นส่วนหนึ่งของ Booking Holdings Inc. (NASDAQ: BKNG) และมีพนักงานมากกว่า 17,000 คนประจำอยู่ที่สำนักงานกว่า 200 แห่งใน 70 ประเทศทั่วโลก
ด้วยพันธกิจของเราคือ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งให้ทุกคนได้ออกไปสัมผัสโลกกว้าง Booking.com จึงลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทาง ที่ Booking.com เราเชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักน่าทึ่งมากมายหลากหลายประเภททั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ บ้านพักตากอากาศ เบดแอนด์เบรกฟาสต์ซึ่งบริหารโดยครอบครัว ไปจนถึงรีสอร์ท 5 ดาวสุดหรู บ้านต้นไม้ หรือแม้แต่กระท่อมน้ำแข็ง เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์พกพาของ Booking.com พร้อมให้บริการใน 43 ภาษา มีตัวเลือกสำหรับเข้าพักมากกว่า 28 ล้านรายการ โดยในจำนวนนี้รวมบ้านพัก อพาร์ตเมนต์ และที่พักน่าทึ่งประเภทอื่น ๆ กว่า 5.7 ล้านรายการ ซึ่งครอบคลุมมากกว่า 145,000 จุดหมายใน 228 ประเทศและดินแดนทั่วโลก
ในแต่ละวันแพลตฟอร์มของเรามียอดจองเพื่อเข้าพักรวมกันมากกว่า 1.5 ล้านคืน และไม่ว่าจะเดินทางติดต่อธุรกิจหรือไปพักผ่อน ลูกค้าสามารถใช้ Booking.com จองที่พักตรงใจทันทีได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการจอง และมีนโยบายรับประกันว่าราคาของเราจะไม่แพงกว่าเว็บไซต์อื่น นอกจากนี้ยังมีทีมงานที่พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าในกว่า 43 ภาษาทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดไปที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของเราติดตามเราบน Twitter และ Instagram หรือกดถูกใจเราได้ที่ Facebook หากต้องการดูข่าวสาร ข้อมูล และข้อมูลเชิงลึกล่าสุด โปรดไปที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกของเรา