กรุงเทพฯ,
23
พฤษภาคม
2017
|
10:37
Europe/Amsterdam

10 เมืองที่เหมาะแก่การเดินสำรวจมากที่สุดในโลก

คุณรู้หรือไม่ว่าองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ปี พ.ศ. 2560 นี้ เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในระดับนานาชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืน และเพื่อเป็นขานรับกับนโยบายขององค์การสหประชาชาติ Booking.com ผู้นำระดับโลกที่เชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักน่าทึ่งมากมาย ได้นำข้อมูลจากคำแนะนำของผู้เดินทางหลายล้านคนมาวิเคราะห์ เพื่อช่วยให้คุณสามารถค้นหาเมืองที่เหมาะแก่การพักผ่อน และวิธีการพักผ่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คงจะไม่มีวิธีใดเหมาะไปกว่าการออกเดินสำรวจเมืองด้วยสองเท้าของคุณแทนการใช้รถยนต์ ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำ 10 จุดหมายที่เหมาะแก่การเดินสำรวจมากที่สุดในโลก โดยแต่ละจุดหมายนั้นคือจุดหมายที่ได้รับการแนะนำและคะแนนสูงในด้านของการเดินชมเมือง ระบบขนส่งสาธารณะ การปั่นจักรยาน และการเดินจากผู้เดินทางทั่วโลก

มิวนิก

หากกล่าวถึงเส้นทางที่มีทิวทัศน์งดงามแล้ว การเดินผ่านใจกลางเมืองมิวนิกที่เป็นมิตรสำหรับคนเดินเท้า จะทำให้ท่านได้สัมผัสวิวที่สวยงามตามสไตล์บาวาเรียนในทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็น สวนอิงลิชการ์เด้น (English Garden) ที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ และนอกเหนือจากสวนที่เป็นดั่งโอเอซิสกลางใจเมืองแห่งนี้แล้ว ท่านยังสามารถใช้เวลาไปกับการเดินชมสินค้า และเพลิดเพลินกับอาคารที่ตกแต่งอย่างหรูหรา อีกทั้งยังมีวิหารเฟราเอ่นเคียร์ชเช่อ (Frauenkirche Cathedral) ที่สวยสดงดงามให้ชื่นชมอีกด้วย

เกียวโต

เกียวโตเป็นเมืองที่เหมาะแก่การใช้เวลาดื่มด่ำไปกับส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์และความเร่งรีบในแบบสมัยใหม่ ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 1,000 ปี โดยมีชื่อเสียงในเรื่องของวัด พิธีชงชา และธรรมเนียมการจัดดอกไม้ แต่ในขณะเดียวกัน เกียวโตก็เป็นมหานครที่เฟื่องฟูและมีความคิดก้าวหน้า ซึ่งสามารถสังเกตได้จากจุดน่าสนใจต่าง ๆ ที่กระจายตัวอยู่รอบ ๆ เมือง ดังนั้นคุณจึงอาจต้องพึ่งระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ อยู่บ้าง แต่การเดินเท้าก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจแต่ละย่าน และบริเวณที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นก็คือ วัดคิโยะมิซุเดะระ (Kiyomizu-dera Temple) โดยศาลเจ้าและแผงขายของทานเล่นของที่นี่ ได้กลายเป็นศูนย์รวมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ

เฮลซิงกิ

เฮลซิงกิจะได้รับคะแนนสูงอยู่เสมอเมื่อมีการจัดอันดับเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในโลก และยังขึ้นชื่อในเรื่องของความทุ่มเทในการสร้างพื้นที่ที่สามารถเดินเที่ยว และปราศจากมลภาวะจากรถยนต์อีกด้วย นอกจากนี้เฮลซิงกิยังมีชื่อเสียงในเรื่องการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียที่ล้ำหน้า ดังนั้นอย่าลืมเดินสำรวจไปตามอาคารที่ถูกตกแต่งอย่างมีสุนทรียภาพและล้ำสมัย ซึ่งได้รับการผสมผสานกับมรดกการตกแต่งสไตล์ฟินแลนด์ได้อย่างกลมกลืน

บอร์โด

เมื่อเดินเล่นในเมืองบอร์โด ท่านจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย แต่แฝงไว้ด้วยความสง่างามของบรรดาอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกที่งดงามทอดยาวบนถนน ซึ่งจัดให้เป็นย่านสำหรับคนเดินเท้า รวมถึงบริเวณจัตุรัสต่างๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำพุ และในบรรดาจัตุรัสเหล่านั้น ปลาสเดอลาบูร์ส (Place de la Bourse) อาจถือได้ว่ามีความตระการตามากที่สุดเพราะมี "มิรัวโด" (Miroir D'eau หรือ กระจกผืนน้ำ) สระน้ำสะท้อนเงาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และทำให้ทิวทัศน์นั้นเสมือนอยู่ในความฝัน นอกจากบอร์โดจะเหมาะสำหรับการเดินเล่นแล้ว ที่นี่ยังเป็นมิตรกับผู้ใช้จักรยานและมีระบบขนส่งสาธารณะที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นท่านจึงสามารถเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ฟลอเรนซ์

เติมพลังด้วยไวน์ชั้นเยี่ยมและปับปาอัลโปโมโดโร สไตล์ทัสกานี ท่านก็จะพร้อมสำหรับการสัมผัสประสบการณ์จากการเดินสำรวจรอบเมืองฟลอเรนซ์ เพราะที่นี่จะพบกับถนนที่มีมนต์ขลังซึ่งปูลาดด้วยอิฐ ถนนหลายเส้นแคบเกินกว่าจะใช้รถยนต์ได้ และย่านใจกลางเมืองส่วนใหญ่ก็อนุญาตสำหรับผู้เดินเท้าเท่านั้น นอกจากนี้ การเดินเท้ายังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสวิถีชีวิตแบบอิตาเลียน ไม่ว่าจะเป็นการจิบกาแฟเอสเพรสโซ่กลางแจ้ง หรือเพลิดเพลินกับอากาศสดชื่นในสวนโบโบลี (Boboli Gardens) อันเปี่ยมเสน่ห์ โดยเดินข้ามสะพานปนเต้แวคคิโอ (Ponte Vecchio) สะพานเพียงแห่งเดียวที่กองทัพเยอรมันไม่ทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

นิวยอร์ก

ไม่ว่าคุณจะเดินเล่นในนิวยอร์กเป็นระยะทางไกลเพียงใด ก็มีโอกาสที่จะหลงทางน้อยมาก เพราะผังเมืองของที่นี่วางรูปแบบเป็นตารางและถนนแทบทุกเส้นก็มีชื่อเรียงตามหมายเลข ท่านสามารถเดินทั่วเขตแมนฮัตตันเพื่อสำรวจย่านต่าง ๆ ที่แสนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโซโห (SoHo) ลิตเติลอิตาลี (Little Italy) และที่พลาดไม่ได้เลยคือสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ก (Central Park) ประชากรส่วนใหญ่ของนิวยอร์กนั้นไม่มีรถส่วนตัวและเมืองแห่งนี้ก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดิน ลูกค้าของ Booking.com จึงพากันบอกต่อว่าที่นี่เป็นเมืองที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดิน เรียกได้ว่าแม้แต่บริเวณไทม์สแควร์ (Times Square) ก็เปิดเป็นถนนคนเดินเท่านั้น แต่หากจำเป็นจริง ๆ ก็มีรถไฟใต้ดินให้ใช้บริการได้ตลอด

เพิร์ท

เพิร์ทนั้นไม่ได้โด่งดังแค่เรื่องหาดทรายที่งามบริสุทธ์และท้องฟ้าสีครามสดใสเท่านั้น เพราะที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมย่านวัฒนธรรมสุดสร้างสรรค์เช่นกัน ท่านสามารถเลือกเติมพลังจากร้านอาหารและบาร์ที่หลากหลาย ระหว่างการเดินเล่นบนถนนบรรยากาศสบาย ๆ หรือพักผ่อนฟังเสียงลมพัดในพื้นที่สวนสีเขียวชอุ่มของเมือง แต่ถ้าคุณอยากได้ตัวช่วยค้นหาสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจหรือความลับเด็ด ๆ แล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ลองใช้บริการจาก Two Feet and a Heartbeat ซึ่งเป็นบริษัทจัดทัวร์เดินเที่ยวโดยคนท้องถิ่นรุ่นใหม่ 2 คน

แวนคูเวอร์

หากถามว่าเมืองใดในประเทศแคนาดาที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดและเหมาะสำหรับการเดินมากที่สุด คำตอบอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้นแวนคูเวอร์ เพราะตัวเมืองนั้นหันหน้าไปทางทะเลและมีทัศนียภาพของเทือกเขานอร์ธชอร์ (North Shore Mountains) ซึ่งเป็นสถานที่แสนวิเศษไม่แพ้กัน ส่วนผสมระหว่างธรรมชาติอันน่าตื่นตากับวัฒนธรรมอันเฟื่องฟูนั้นส่งผลให้การเดินสำรวจเมืองแห่งนี้เป็นไปอย่างเพลิดเพลิน จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองนี้จะได้รับการบอกต่อจากลูกค้าของ Booking.com ว่าเหมาะสำหรับการเดินอย่างยิ่ง จุดที่น่าสนใจให้เดินสำรวจนั้นมีทั้งทางเดินซึ่งทอดยาวเลียบแนวชายฝั่งฟอลส์ครีก (False Creek) ไปจนถึงเกาะแกรนวิลล์ (Granville Island) รวมถึงลัดเลาะผ่านสวนอัมเบิลไซด์พาร์ก (Ambleside Park)

ซานฟรานซิสโก

หากท่านพร้อมที่จะเดินขึ้นเนิน ซานฟรานซิสโกคือหนึ่งในจุดหมายยอดเยี่ยมสำหรับการเดินสำรวจ นอกจากจะมีอากาศที่แจ่มใสเพราะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว เมืองแห่งนี้ยังมีบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสามารถสัมผัสได้ดีที่สุดเมื่อเดินไปรอบ ๆ ละแวกต่าง ๆ ของที่นี่ พลางชมสีสันของอาคารบ้านเรือนและผู้คนที่สัญจรไปมา นอกจากนี้ท่านยังสามารถพิชิตทางเดิน 2.7 กิโลเมตรของสะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge) (หรือจะเดินไปถึงแค่ตอม่อแรก และเดินกลับก็ได้เช่นกัน) หรือลองไปเยือนเพียร์ 39 (Pier 39) เพื่อลิ้มรสเนื้อปูสด ๆ หรือไอศกรีมรสเลิศ

มอนเตวิเดโอ

แม้จะเป็นเมืองใหญ่ แต่เมืองหลวงของอุรุกวัยแห่งนี้กลับเป็นเมืองที่เหมาะแก่การเดินสำรวจอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยบรรยากาศริมชายหาดที่มีเอกลักษณ์ ใคร ๆ ก็คงอดไม่ได้ที่จะดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนผ่อนคลาย ในขณะที่เดินทอดน่องไปตามรัมบลา (Rambla) ซึ่งเป็นทางเดินริมหาดในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ท่านจะตื่นตาตื่นใจไปกับลานกว้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้ และอาคารสไตล์โคโลเนียลอันใหญ่โตหลากหลายแห่ง รวมถึงกลุ่มอาคารคอนกรีตสไตล์อาร์ตเดโคและสไตล์ปี 1970 อันเปี่ยมเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีย่านซิวดาดเบียฮา (Ciudad Vieja) หรือย่านเมืองเก่าซึ่งน่าประทับใจอย่างยิ่ง ลองสำรวจอาคารบ้านเรือนอันเก่าแก่ ท่ามกลางเสียงดนตรีของนักดนตรีเปิดหมวก ก่อนแวะลิ้มลองรสชาติของอาหารอุรุกวัยที่แผงขายอาหารริมทาง